ความรู้เกี่ยวกับ : อาหารไทยพิชิตความแก่
โดย : นางกนกพร มีสุข
นักวิชาการคลังชำนาญการ
หน่วยงาน สำนักงานคลังเขต 1
พูดถึงอาหารไทยยังไม่ต้องระบุเมนู น้ำลายก็มาสอที่ปากซะแล้วแต่พอมารู้ว่า "อาหารไทย พิชิตความแก่" ได้ จึงต้องรีบมากระซิบบอกต่อโดยพลัน วันนี้เรามี 10 เมนูอาหารไทย ที่มีสรรพคุณในการช่วยให้ความชรามาช้าลงไปอีกนิด โดย นพ. กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรวัฒน์ หรือชะลอชรา (Anti-aging Medicine)
ส้มตำไก่ย่าง
ที่สุดของอาหารต้านชรา ในส้มตำมี "สุดยอดวิตามิน" อย่าง “มะเขือเทศ” ที่ช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากและเต้านมส่วน "มะละกอ" นั้นช่วย “ล้างพิษ” ให้กับลำไส้ทั้งเล็กและใหญ่ในมะละกอยังมีน้ำย่อยชื่อ “ปาเปน” เป็นน้ำยาทำความสะอาดลำไส้ให้ปลอดคราบโปรตีนเกาะ ส่วนการรับประทานคู่กับ "ไก่ย่าง" นั้นมีข้อดี คือ ทำให้ไม่ขาดโปรตีน และที่สำคัญคือ “ไม่อ้วน” เท่าการกินกับข้าวเหนียวหรือกินแบบหนักแป้ง
แกงเขียวหวานไก่
ในน้ำแกงเขียวหวานเป็น "อาหารทิพย์ อุดมด้วยวิตามิน "น้ำแกง" เข้มข้นหอมมันคือ “ซุปวิตามินชั้นดี” ที่มีทั้ง วิตามินเอ, ดี, อี และเค ที่ละลายอยู่ในกะทิส่วนใน "เนื้อไก่" ก็มี "วิตามินบี" ที่ช่วย "บำรุงสมอง" อีกทั้งในพริกที่ใส่เป็นเครื่องแกงก็มี “กรดแคปไซซิน” กับ “เบต้าแคโรทีน” ที่ช่วยบำรุงสายตา
เมี่ยงปลาทู
เมี่ยงปลาทู ได้ทั้ง “ซัลโฟราเฟน” กลุ่มสารต้านมะเร็งจาก "ใบคะน้าห่อเมี่ยง" ถ้าให้ดีต้องหยิบ “มะเขือเทศราชินี” หั่นเสี้ยวใส่เข้าไป ช่วยผิวพรรณสวยส่วนในเนื้อปลาทู มีทั้ง "กรดไขมันดี" และ “แอสตาแซนทิน” ที่กินเข้ากันเพราะวิตามินที่ว่านี้โดยมากละลายในไขมัน ถ้าท่านใส่ปลาทูทอดเข้าไปจะช่วยให้จับกันได้ดีขึ้น
ผัดไท
โดยเฉพาะผัดไทแบบต้นตำรับคลาสสิก ที่สืบทอดตำนานแต่ครั้งรัฐนิยมของท่านจอมพล ป. ในผัดไทจะมีทั้ง "ถั่วงอก" ที่ถือเป็นอาหารมงคลรับปีใหม่ด้วย หมายถึง การงอกงามของสิ่งใหม่ๆ ในถั่วงอกมี “วิตามินซี” อยู่มากนอกจากนั้น "ถั่วและเต้าหู้" ในผัดไทยังอุดมไปด้วย วิตามินอี, แคลเซียม และสาร “พฤกษฮอร์โมน” ที่เป็น ไฟโตเอสโตรเจน "ป้องกันมะเร็ง" และ "ลดไขมัน" โดยมีข้อแม้คืออย่าหนัก “เส้น” มากไป
ข้าวหอมนิล
ข้าวไทยสีม่วงเข้ม ที่อัดแน่นอยู่ในสีสวยนั่นคือสาร “พฤกษเคมี” ที่มี พลังมากกว่า "วิตามินอีกับซีรวมกัน" เสียอีกที่สำคัญเอามาจัดเมนูคู่ปีใหม่ได้ง่ายๆ ตัวอย่างเช่น น้ำพริกปลาทูข้าวหอมนิลหรือจะกินคู่กับไข่เจียวร้อนๆ ก็ยังไหว
ข้าวตอกน้ำกะทิ
ขนมไทยช่วงปีใหม่ที่ถูกลืมไปนาน ข้าวตอกมี “เส้นใย” ช่วยในเรื่องไขมันและน้ำตาลได้ส่วนวิตามินข้างในนั้นก็เป็น "แอนตี้ออกซิแดนท์"
ข้าวต้มมัดหรือข้าวเหนียวปิ้งใส่ไส้
เป็นเมนูที่อยู่ท้องและมีประโยชน์ครบเครื่อง เพราะมีทั้ง 5 หมู่อยู่ในนั้น ส่วนวิตามิน ก็มีทั้งเอ, บี, ซี นอกจากนั้นใน "กล้วย" ยังมีเส้นใยกับสารกลุ่มฟีนอลชื่อ “กรดเอลลาจิก” ช่วย "ต้านมะเร็ง" และ "เนื้องอก" ได้
ข้าวเหนียวดำใส่น้ำกะทิ
ขนมชนิดนี้ มีเครื่องเคราให้ใส่เพิ่มได้เยอะ ไม่ว่าจะเผือก, ลำไย, ลูกเดือย และธัญพืชอื่นๆ ซึ่งถือเป็น "แหล่งรวมไฟเบอร์ชั้นสูง" เพราะ "ช่วยขัดล้างตั้งแต่หลอดอาหารลงมาถึงลำไส้ใหญ่" ส่วนตัว "ข้าวเหนียวดำ" เองก็มี “วิตามินอี” และ “ธาตุเหล็ก” สูงมากรวมถึง “ธาตุม่วงต้านร่วงโรย(OPCs)” ก็มี
ข้าวโพดม่วง
หรือ “ข้าวโพดทับทิมสยาม” ประกอบด้วยคุณประโยชน์มากมายทั้ง วิตามินบำรุงตาอย่าง “ลูทีน” กับ “ซีแซนทิน” และ ธาตุม่วง
น้ำสมุนไพร
เช่น น้ำอัญชัน, กระเจี๊ยบ, น้ำย่านาง, น้ำใบบัวบก น้ำเหล่านี้ถือเป็น "น้ำวิตามินขั้นเทพ" รวมวิตามินระดับ “ซุปตา” อย่างแท้จริง ตั้งแต่ "อัญชัน" มี "วิตามินสีม่วง" ที่ช่วยปกป้องผิวและบำรุงตับ ส่วน "น้ำกระเจี๊ยบ" ก็มี "วิตามินซีและเอ" ช่วยบำรุงไตได้ ส่วน "น้ำใบย่านางกับใบบัวบก" ยิ่งดีใหญ่ เพราะประกอบด้วย “คลอโรฟิลล์” ที่หลายคนใฝ่ฝันหาและยังมี “กลูต้าไทโอน” ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระขั้นปราบเซียน
อาหารไทยอยู่คู่กับวิถีชิวตของคนไทยและยังเป็นเมนูถูกลิ้น บวกกับกินแล้วช่วยให้แก่ช้าลงอีกด้วยแบบนี้ งั้นก็ขอให้ทุกท่าน Enjoy Eating กันนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น