โดย : นายทองใจ ปัญญาราช
เจ้าพนักงานขับรถยนต์ ส. 2
หน่วยงาน สำนักงานคลังเขต 5
ในยุคเศรษฐกิจที่ตกต่ำค่าครองชีพสูงขึ้นผู้คนส่วนใหญ่พยายามรัดเข็มขัดประหยัดเงินกันอย่างเต็มที่ ทางเลือกอีกวิธีหนึ่งของคนมีรถที่ช่วยในการลดค่าใช้จ่ายคือการดูแลรักษารถสุดที่รักของตัวเองให้อยู่กับเราไปได้นานที่สุด ไม่เสื่อมอายุการใช้งานเร็วเกินไป
สำหรับผู้ใช้รถทุกท่าน การดูแลรักษาเครื่องยนต์ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการยืดอายุการใช้งานรถของคุณ ปกติเราต้องตรวจตราดูแลรถยนต์อย่างสม่ำเสมออาจจะสัปดาห์ละครั้งสำหรับการดูแลอย่างละเอียดแต่ถ้าเป็นไปได้ถ้าเราหมั่นดูแลรถของเราทุกวันก็จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ทุกวันนี้ถึงแม้นจะมีศูนย์ให้บริการดูแลรักษารถตามสถานที่ต่าง ๆ ตรวจเช็คระยะตลอดทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร แต่คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่ารถของคุณนั้นจะไม่เกิดปัญหาระหว่างทางทางที่ดีที่สุดคือความไม่ประมาท ควรจะหมั่นตรวจสอบอยู่เป็นระยะ ๆ เมื่อเกิดปัญหาจะได้ไม่บานปลายจนต้องเสียเงินไปอีกหลายพันจนถึงเป็นหมื่น ๆ บาท การดูแลรักษารถยนต์นั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่ยุ่งยากและเสียเวลามากเลย เรามีข้อควรปฏิบัติอย่างง่ายสำหรับการดูแลรักษารถยนต์ประจำวันของคุณมานำเสนอครับ
ประการที่ 1
ที่จะต้องตรวจก็คือ ลมยาง ตรวจง่าย ๆ ด้วยสายตาว่ามันแฟบอ่อนหรือเปล่า ดูทุกเส้นนะครับ เพราะถ้าลมยางของแต่ละล้อไม่เท่ากันจะมีผลต่อการทรงตัวของรถ ทำให้เบรกปัด วิ่งส่าย รถแถไปด้านหนึ่ง เป็นที่มาของการเกิดอุบัติเหตุด้วย อาจจะทำให้อายุของยางสิ้นลง จึงต้องควักระเป๋าก่อนถึงเวลาอันควรด้วยนะครับเพราะฉะนั้นถ้าพบว่าแรงดันลมไม่เท่ากันต้องตรวจเติมลมให้เรียบร้อย
ประการที่ 2
ที่ต้องตรวจนั้นคือ ตรวจดูรอยหยดรั่วของน้ำและน้ำมันต่าง ๆ ใต้ท้องรถซึ่งก้มดูด้วยสายตาทำได้ง่าย ๆ
ถ้าพบว่ารั่วที่ล้อและเป็นน้ำมันเบรกจะต้องงดใช้งานรีบปรึกษาช่างและเมื่อตรวจพบว่าน้ำระบายความร้อนรั่วหยดให้หาที่มาของการรั่ว ถ้าเป็นข้อต่อให้ใช้ไขควงกดอัดแน่นและถ้าพบรอยรั่วของน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ หรือน้ำมันเฟืองท้ายก็อย่านิ่งนอนใจ เมื่อมีเวลาจะต้องนำไปปรึกษาช่างเพื่อทำให้รอยรั่วนั้น ๆ หมดไป ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อกลไกดังกล่าวของรถยนต์
ประการที่ 3
การดูแลน้ำระบายความร้อน วิธีดูก็ไม่ได้ยุ่งยากเลยนะครับ เพียงตรวจโดยการเปิดฝาหม้อน้ำออกถ้าพบว่าน้ำพร่องน้อยลงไปก็ใช้น้ำสะอาดเติมลงไปให้เต็ม สำหรับรถบางคันนะครับ ลองสังเกตดูว่าถ้ามีขวดพลาสติกที่เก็บน้ำอยู่และมีท่อเล็ก ๆ ต่อไปถึงหม้อน้ำก็ไม่ต้องเปิดฝาหม้อน้ำนะครับให้ดูระดับน้ำที่ขวดเก็บน้ำสำรองแทน ถ้าน้ำยังอยู่ในระดับที่กำหนดก็ไม่ต้องเติมแต่ถ้าต่ำก็ให้เปิดฝาขวดเก็บน้ำสำรอง แล้วเติมน้ำสะอาดให้เต็มนะครับ เรื่องดูแลน้ำระบายความร้อนอย่าละเลยเพราะจะทำให้เครื่องยนต์ของท่านเสื่อมสภาพเร็วได้นะครับ
ประการที่ 4
ดูแลตรวจเติมระดับน้ำมันเครื่องนะครับเพราะถ้าน้ำมันเครื่องพร่องหรือแห้งจะทำให้เกิดการสึกหรอภายในเครื่องยนต์วิธีตรวจระดับน้ำมันเครื่องก็ไม่ยุ่งยากอะไรเลย เพียงแต่ดึงเหล็กวัดออกมาเช็ดทำความสะอาดแล้วใส่กดลงไปยังตำแหน่งของมันให้สุดจากนั้นดึงออกมาตรง ๆ ในแนวดิ่งระดับน้ำมันจะสังเกตได้จากรอยคาบน้ำมันที่เกาะอยู่ปลายเหล็กวัด น้ำมันจะต้องอยู่ระหว่างกลางขีดที่มีอักษร l (Low) และ F (Full) ถ้าต่ำจาก l ก็ให้เติมให้อยู่ในระดับเท่าเดิมและไม่ควรเติมจนเกินอักษร F เพราะจะทำให้ควันขาวจากน้ำมันเครื่องเข้ามาห้องเผาไหม้และเพลาข้อเหวี่ยงรั่วนะครับ ซึ่งก็ไม่เป็นผลดีต่อเครื่องยนต์เลย
ประการที่ 5
การตรวจเติมน้ำมันเบรกในกระบอกเก็บน้ำมันเบรกที่แม่ปั๊มเบรก ถ้ามีระดับก็ไม่ต้องเติมนะครับแต่ถ้าพร่องต่ำกว่าขีดที่กำหนดให้เติมจนได้ระดับที่ถูกต้อง การเติมน้ำมันเบรกมีข้อควรระวังก็คือ อย่าให้น้ำมันเบรกหกราดโดนสีรถจะทำให้สีเสียหาย และถ้าหกห้ามเช็ดนะครับ ให้ใช้น้ำราดให้เจือจางเพราะจะทำให้สีเสียหายเป็นแผลทางยาวไปตลอดแนวที่เช็ด สำหรับน้ำมันเบรกนั้นถ้าพร่องมาก ๆ ทุกวันจะต้องรีบนำรถไปปรึกษาช่างเพราะเบรกคือชีวิต มีชีวิตของใครบ้างหรือครับก็ชีวิตของท่านและผู้ที่โดยสารมากับท่านรวมถึงผู้ร่วมใช้รถใช้ถนนกับท่านด้วย
ประการสุดท้าย
การบำรุงรักษาประจำวัน คือกระบอกคลัตช์น้ำมันจะต้องมีการตรวจเติมน้ำมันให้อยู่ในระดับที่ถูกต้อง กระบอกดังกล่าวอยู่ข้าง ๆ กระบอกน้ำมันเบรกและน้ำมันที่เติมก็คือน้ำมันเบรกนั่งแหละ อย่าละเลยครับเพราะถ้าน้ำมันหมดจะเข้าเกียร์ไม่ได้นั่งคือรถวิ่งไม่ได้นั่นเอง
เพียงท่านสละเวลาเพียง 15 นาทีต่อวันหมั่นดูแลรักษาสภาพเพียงเท่านี้รถของท่านก็จะอยู่ไปกับเราได้อีกนานครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น