ความรู้เกี่ยวกับ : การเลือกซื้อกล้องถ่ายรูป
โดย : นางสาวอุทุมพร แก้วมาลา
หน่วยงาน กลุ่มงานกฎหมายละระเบียบด้านการเบิกจ่าย
คุณกิติรดา (จด-ประมวล-กลั่นกรอง)นายธราธิป หนูเจริญ
ตำแหน่ง : นักวิชาการคลังปฏิบัติการ
การที่เราจะเลือกซื้อกล้องมาใช้งานนั้น เราควรที่จะพิจารณาจากองค์ประกอบหลายๆด้าน เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่ได้จ่ายไป สำหรับองค์ประกอบที่เรานำมาพิจารณานั้น ได้แก่ ประเภทของกล้องกับการใช้งาน งบประมาณขนาดและคุณภาพของไฟล์ภาพซึ่งสามารถแบ่งตามลักษณะการใช้งานได้ 5 ประเภท ดังนี้
1. กล้องฟิล์มประเภท SLR กล้องประเภทนี้เหมาะสำหรับใช้เรียนถ่ายภาพ การเรียนรู้เกี่ยวกับกล้อง
ในเบื้องต้นมากกว่าที่จะนำมาใช้งานประจำวันเนื่องจาก เวลาถ่ายภาพด้วยกล้องประเภทนี้จะไม่สามารถตรวจสอบภาพที่เราถ่ายได้จนกว่าจะทำการล้างฟิล์มออกมาดู ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาดเป็นอย่างมาก
กล้องฟิล์มประเภท SLR นี้จะใช้ฟิล์มเก็บข้อมูลเวลาถ่ายภาพ และเวลาที่จะนำภาพออกมาดูนั้นต้องผ่านกระบวนการที่เรียกว่า การล้างฟิล์ม ในอดีตกล้องประเภทนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นกล้องต้นแบบของกล้องดิจิตอล
ในปัจจุบัน เนื่องจากมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากขึ้น ทำให้ไม่ค่อยจะนิยมนำมาใช้งาน สำหรับคุณภาพของไฟล์ภาพที่ได้นั้นขึ้นอยู่กับกระบวนการถ่ายภาพ และการล้างภาพ มีข้อจำกัดในเรื่องศูนย์หรือร้านค้าที่ให้บริการ อุปกรณ์เสริม อะไหล่ หายาก ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับการถ่ายรูปมาโดยตรง กล้องประเภทนี้จะมีต้นทุนค่อนข้างสูงเนื่องจากต้องใช้ฟิล์มในการบันทึกข้อมูล
2. กล้อง DSLR กล้องประเภทนี้จะเห็นกันบ่อยมากๆ ในงานต่างๆ เช่น งานรับปริญญา งานแต่งงาน งานบวช เพราะเป็นกล้องที่สามารถตอบสนองความต้องการได้เป็นอย่างดี กล้องประเภทนี้เป็นกล้องที่สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ ลักษณะการทำงานจะคล้ายกับกล้องฟิล์มแต่จะเปลี่ยนวิธีการบันทึกภาพลงบนฟิล์มเป็นบันทึกภาพเป็นระบบดิจิตอลแทนทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะพอสมควรเมื่อเทียบกับกล้องที่ใช้ฟิล์ม ซึ่งสามารถแบ่งย่อยได้อีก 2 ประเภท คือกล้องตัวคูณ และกล้อง DSLR ประเภท Full Frame ซึ่งกล้อง Full Frame จะมีขนาดเซนเซอร์ใหญ่กว่ากล้องตัวคูณ ทำให้คุณภาพของไฟล์ภาพที่ได้จะดีกว่ากล้องตัวคูณนั่นเอง ในส่วนของศูนย์หรือร้านค้าที่ให้บริการนั้นจะมีอยู่ทั่วไป กล้องประเภทนี้จะมีอุปกรณ์เสริมเยอะมากๆ ได้แก่ เลนส์ แฟลช และฟิลเตอร์ เป็นต้น ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างหลากหลาย ราคาของกล้อง และอุปกรณ์เสริมประเภทนี้จะมีตั้งแต่หลักหมื่น จนถึงหลักแสนบาทขึ้นอยู่กับความต้องการ และการใช้งาน
3. กล้อง DSLR-LIKE กล้องประเภทนี้รูปทรงภายนอก และโหมดการถ่ายภาพจะมีลักษณะคล้ายๆ
แต่ไม่เต็มระบบเหมือนกับกล้อง DSLR ซึ่งมีส่วนประกอบบางอย่างที่แตกต่างออกไปเช่น ไม่สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ ขนาดของ Sensor จะเล็กกว่ากล้อง DSLR เหมาะสำหรับผู้หัดถ่ายภาพ แต่คุณภาพที่ได้จะด้อยกว่า กล้อง DSLR เล็กน้อย ในส่วนของศูนย์หรือร้านค้าที่ให้บริการนั้นจะมีอยู่ทั่วไปเหมือนกับกล้อง DSLR กล้องประเภทนี้จะมีอุปกรณ์เสริมพอประมาณและราคาของกล้องประเภทนี้ประมาณหมื่นกว่าบาท ซึ่งจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของกล้อง
4. กล้องดิจิตอลคอมแพค กล้องประเภทนี้จะพบเห็นกันทั่วไป มีขนาดเล็กกะทัดรัด สะดวกต่อการพกพา ใช้งานง่าย ระบบของกล้องมีลักษณะการใช้งานคล้ายๆกับกล้อง DSLR-LIKE ที่เน้นระบบออโต้สำเร็จรูปเป็นส่วนใหญ่ แต่ข้อเสียของกล้องประเภทนี้คือคุณภาพของไฟล์ภาพที่ได้จะไม่ค่อยดี สามารถนำไปใช้งานต่อไม่ค่อยได้ แต่จะมีเพียงบางรุ่นเท่านั้นที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ ทำให้คุณภาพออกมาดี แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงตามไปด้วย ราคาของกล้องประเภทนี้จะอยู่ที่หลักพัน ถึงหลักหมื่นกันเลยทีเดียว ในส่วนของศูนย์หรือร้านค้าที่ให้บริการนั้นจะมีอยู่ทั่วไปเหมือนกับกล้อง DSLR และกล้อง DSLR-LIKE
5. กล้องประเภท Mirrorless กล้องประเภทนี้ ได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย เป็นกล้องที่รวมจุดเด่นของกล้องแต่ละประเภทเข้ามาไว้ด้วยกัน กล่าวคือ ตัวบอดี้ของกล้องมีลักษณะคล้ายๆกับกล้องดิจิตอลคอมแพค แต่สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้เหมือนกล้อง DSLR ซึ่งทำให้เป็นที่น่าสนใจของหลายๆคน ลักษณะการใช้งานทั่วไปนั้นจะไม่ซับซ้อน ใช้งานง่าย มีระบบฟังก์ชันคล้ายกับกล้อง DSLR เป็นอย่างมากแต่มีความเล็กกะทัดรัด สะดวกต่อการพกพา คุณภาพของไฟล์ภาพที่ได้จะพอๆกับกล้อง DSLR แต่ราคาของกล้องประเภทนี้จะใกล้เคียงกับกล้อง DSLR ในส่วนของศูนย์หรือร้านค้าที่ให้บริการนั้นจะมีอยู่ทั่วไปเหมือนกับกล้อง DSLR ในปัจจุบันกล้องประเภทนี้จะมีอุปกรณ์เสริมไม่เยอะเท่าไหร่ เนื่องจากเริ่มออกจำหน่ายมาได้ไม่นาน